แบบทดสอบหลังเรียน ฟังให้สัมฤทธิ์ผล

 ๑) เหตุใดการฟัง   จึงมีความสำคัญในชีวิตประจำวัน
 ก. เพราะคนส่วนมากใช้การฟังรับสารมากกว่าการอ่าน
 ข. เพราะการฟังรับสารได้ถูกต้องชัดเจนกว่าการอ่าน
 ค. เพราะการฟังรับสารได้สะดวกรวดเร็วกว่าการอ่าน
 ง. เพราะการฟังเป็นหัวใจสำคัญอย่างหนึ่งของความเป็นปราชญ์

 ๒) ในชีวิตประจำวันของคนทั่วไป  ข้อใดเป็นความสำคัญที่สุดของการฟัง
 ก. ใช้ติดต่อกิจธุระทั่วไป
 ข. ใช้ถ่ายทอดวิชาความรู้
 ค. ใช้แสวงหาความเพลิดเพลิน
 ง. ใช้สร้างจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์

 ๓) หลักการฟังที่ดีข้อใดสำคัญที่สุด
 ก. ฟังโดยมีสมาธิ
 ข. ฟังโดยไม่มีอคติ
 ค. ฟังโดยมีความพร้อม
 ง. ฟังให้ตรงความมุ่งหมาย

 ๔) การฟังเพื่อความเพลิดเพลินโดยเฉพาะควรฟังสิ่งใดมากที่สุด
 ก. เพลงร้อง
 ข. การเล่านิทาน
 ค. บทร้องในการแสดง
 ง. บทสนทนาในการแสดง

 ๕) การปรับปรุงประสิทธิภาพการฟังข้อใด  มีความสำคัญมากที่สุด
 ก. เตรียมตัวก่อนฟัง
 ข. จดบันทึกสิ่งที่ได้ฟัง
 ค. ฟังด้วยความตั้งใจจริง
 ง. ฟังโดยมีปฏิกิริยาสัมพันธ์กับผู้พูด

 ๖) ข้อใดเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการอ่าน
 ก. การทรงตัวในขณะอ่าน
 ข. การใช้เสียง
 ค. การแสดงกิริยาอาการขณะอ่าน
 ง. ความเข้าใจในเนื้อหาของบทที่อ่าน

 ๗) ความพร้อมในการเตรียมการอ่าน  ควรคำนึงถึงเรื่องใดเป็นสำคัญ
 ก. ความปกติทั้งทางร่างกายและจิตใจ
 ข. การฝึกอ่านคำพิเศษที่ออกเสียงยาก
 ค. การเตรียมต้นฉบับให้ถูกต้องเรียบร้อย
 ง. การเตรียมแบ่งวรรคตอนจุดที่ควรเน้น

 ๘) ท่าทรงตัวและการใช้กิริยาอาการในขณะอ่านข้อใดเหมาะสมที่สุด
 ก. สบสายตาผู้ฟังตลอดเวลา
 ข. ไม่วางแขนบนโต๊ะหรือพนัก
 ค. เคลื่อนไหวร่างกายไปตามสบาย
 ง. ลำตัวตรงโดยไม่พิงพนักหรือสิ่งอื่นใด

 ๙) ข้อใดไม่ควรมีความสัมพันธ์กับอัตราเร็วในการอ่าน
 ก. จำนวนผู้ฟัง
 ข. สุขภาพของผู้อ่าน
 ค. บรรยากาศในที่ประชุม
 ง. ความยากง่ายของบทที่อ่าน

๑๐) การเปล่งเสียงระดับเดียวกันตลอดไป   ทำให้เกิดผลอย่างไร
 ก. ทำให้ฟังเข้าใจยาก
 ข. ทำให้ผู้ฟังเบื่อเร็ว
 ค. ทำให้ผู้เปล่งเหนื่อยเร็ว
 ง. ทำให้ผู้เปล่งไม่เหนื่อยเร็ว